สุดยอดท็อป 5 โค้ดดิ้งเทรนด์ในปี 2024 ที่นักพัฒนาด้านคอมพิวเตอร์ต้องควรรู้และห้ามพลาด
หากคุณกําลังคิดที่จะเริ่มต้นอาชีพโดยการเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นชนปลายยังไง คุณไม่ต้องห่วงเลยเพราะมีคนจำนวนมากกว่า 27 ล้านคนที่เริ่มทำอาชีพนี้เริ่มต้นจาก “scracth”
ยังมีเวลาพอที่จะให้คุณเริ่มเรียนรู้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้โค้ด และยังมีทรัพยากรมากมายที่รอที่จะให้เราปลดล็อคและนำไปใช้ และคนที่ฉลาดในการเรียนรู้ ท็อป 5 โค้ดดิ้งในปี 2024 นี้จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและต่อยอดความรู้ของคุณได้อย่างเหลือเชื่อ
เหตุผลว่าทำไมคุณต้องรู้เกี่ยวกับเทรนด์ของโค้ดดิ้งในปัจจุบัน?
ในยุคปัจจุบันหนึ่งเราต้องจับตาอยู่กับเทรนด์ใหม่ของการพัฒนาซอฟต์แวร์ เนื่องจากธรรมชาติของการเขียนโค้ดจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา เราจึงควรหมั่นทบทวนความรู้ที่มีและหาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมมีอยู่เสมอ
การร่างแผนงานแบบคร่าวๆ อย่างถูกต้องและชัดเจนอาจจะพอช่วยคุณได้หากคุณต้องการจะเข้าสู่วงการการเขียนโค้ดโดยที่ขาดประสบการณ์และทักษะเกี่ยวกับมัน และสิ่งที่สำคัญคือการรู้จักเรียนรู้เทรนด์ของโค้ดดิ้งในรูปแบบใหม่ๆ จะเป็นสิ่งที่สร้างทักษะที่สำคัญทำให้นักพัฒนาโปรแกรมสามารถสร้างจุดแข็งและสร้างความได้เปรียบที่แตกต่างได้แน่นอน
5โค้ดดิ้ง ที่ได้รับความนิยมที่ใช้ในการสร้างงานด้านการเขียนโปรแกรม
1. AI-Machine Learning Integration (AL/ML) เทคโนโลยี AI / ML เข้ามามีบทบาทในการช่วยปรับปรุงความสามารถและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในอุตสาหกรรมหลายๆ ประเภท ผู้ใช้เลือกใช้เครื่องมือขับเคลื่อนด้วย AI มากขึ้นเพราะมันช่วยขจัดข้อผิดพลาดได้อย่างเห็นผล ช่วยให้การทำงานกินเวลาน้อย แถมยังช่วยเพิ่มผลลัพธ์ที่แม่นยำได้อย่างน่าอัศจรรย์ ยกตัวอย่างเช่น Copilot ของ GitHub ใช้ AI เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนาโปรแกรมโดยมีฟังก์ชันในการทำงานให้ทั้งหมดพร้อมกับโค้ดดิ้งแบบเรียลไทม์ เช่นเดียวกันกับเครื่องมือวิเคราะห์ที่ถูกขับเคลื่อนด้วย AI อย่าง Tableau ที่ช่วยทำให้ธุรกิจได้รับข้อมูลของพวกเขาและใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยทำมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปี 2024 จะเป็นปีของการพัฒนาและมีการรวมเทคโนโลยีเหล่านี้ไว้ในงานของautomating text, โค้ดดิ้ง และงานด้านรูปภาพหรือด้านกราฟิก Machine Learning ได้กลายมาเป็นสิ่งจำเป็นในงานหลากหลายสาขาเช่น…
ระบบการให้คำแนะนํา ระบบยานพาหนะแบบอัตโนมัติ LLM (Large Language Models) Computer vision ช่วยด้านการพูด ช่วยในการกรองอีเมล ด้านเกี่ยวกับยา
ในปีที่ผ่านมา ML ถือเป็นเสาหลักในอุตสาหกรรมธุรกิจและเทคโนโลยี และตามสถิติแล้วมันยังแสดงผลในเชิงบวก ML ถูกแบ่งออกเป็นสามประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ Supervised, Unsupervised, และ Reinforcement Learning จากการสำรวจมีหลาย ML ที่ได้รับความนิยม เช่น Keras, TensorFlow, mlpack, PyTorch ฯลฯ และคุณสามารถใช้มันร่วมกันกับความรู้ในด้านโค้ดที่คุณมี
2. เทคโนโลยีบล็อกเชน ตั้งแต่เริ่มมีบล็อกเชน เทคโนโลยีนี้ก็ได้กลายมาเป็นคําที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเพราะมันคือวิธีที่ถือได้ว่าปลอดภัยในการตรวจสอบเกี่ยวกับธุรกรรมต่างๆ มันเป็นการกระจายข้อมูลที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายโดยผ่านการเขียนโค้ดแบบผสมผสาน บล็อคเชนกำลังจะเปลี่ยนเปลี่ยนวิถีในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงการจัดการเกี่ยวกับอุปทานทางการเงินรวมไปถึงธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพและอื่น ๆ การรวมเทคโนโลยีบล็อคเชนจะเปลี่ยนหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาแอพพลิเคชันที่แยกส่วน (DApps) และความฉลาดของตัวมันที่สามารถดําเนินการเองบนแพลตฟอร์มเช่น Ethereum ในขณะที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนา นักเขียนโปรแกรมยังคงค้นพบวิธีใหม่ ๆ เพื่อใช้ ประโยชน์จากบล็อกเชน และกำหนดอนาคตโดยใช้ระบบกระจายเป็นภาคส่วนได้อย่างปลอดภัยและโปร่งใสซึ่งวิธีการนี้จะสร้างบรรทัดฐานใหม่สำหรับโค้ดดิ้ง และที่ปัจจุบันกำลังนิยมอยู่ก็คือ DeFi, NFT (Non-Fungible Tokens), Interoperability Magic และ Greener Blockchain
3. การตระหนักถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์ ยิ่งเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ การเพิ่มขึ้นของการคุกคามทางไซเบอร์ซึ่งก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว และความอันตรายนี้กลายมาเป็นประเด็นสําคัญของการพัฒนาซอฟต์แวร์ในปี 2024
ผู้พัฒนาด้านคอมพิวเตอร์ต้องรู้วิธีการเขียนโค้ดให้รัดกุมขึ้นในขณะที่ภัยคุกคามไซเบอร์มีความถี่ในการเกิดมากขึ้น การเรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโค้ด secure API และสร้างแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการป้องกันข้อมูลให้ปลอดภัยจะช่วยเพิ่มความสามารถในทักษะของคุณและช่วยสร้างแอพพลิเคชันที่อาจถูกโจรกรรมได้ยากขึ้น การยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับการเขียนโค้ดแบบร่วมสมัยยังคงเป็นสิ่งสําคัญที่จะผลักดันด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบไดนามิก การศึกษาเพิ่มเติมในเรื่อง Machine Learning, Progressive Web Apps, Containerization, Serverless Architecture, Progressive Web Apps, และ Cybersecurity Practice จะช่วยปรับปรุงทักษะการเขียนโค้ดของคุณและคุณจะผันตัวไปเป็นพัฒนาที่เชี่ยวชาญได้ มันเหมือนเป็นการเตรียมตัวรับมือและสามารถปรับตัวได้ในโลกของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่ออยู่ตลอดเวลาในอนาคต
4. ที่ไหนก็ทำงานได้ การเติบโตของรูปแบบการทํางานแบบไม่ต้องเข้าออฟฟิศเริ่มได้รับการยอมรับและกำลังกระจายไปทั่วโลก สิ่งนี้ก่อให้เกิดนิยามใหม่ในการทำงานและรวมไปถึงงานด้านการเขียนโค้ด การเอาท์ซอทงานต่าง ๆ ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาของการเขียนโค้ด มันถูกขับเคลื่อนโดยการค้นหาคนที่ใช่ในงานที่มอบให้และเป็นวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายเชิงกลยุทธ์ การทำงานจากระยะไกลยังนําไปสู่ความท้าทายทางถึงความมีศักยภาพทางด้าน เทคนิคด้วย ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีความรู้ด้านเทคนิคน้อยกว่าต้องการความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อสัญญานต่างๆ เช่นปัญหาของเราเตอร์ หือ Wi-Fi ที่ส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และเช่นเดียวกัน มันเหมือนกับปัญหาการทำงานที่ล่าช้าใน MacBook ของนักเขียนโค้ดเพราะขาดความรู้ในการเลือกคุณสมบัติของ CPU ให้เข้ากับเครื่อง Mac นั่นเอง และในกรณีนี้มันก็เหมือนจุดอ่อนและจำกัดการทำงานของเราเอง
ในการทำงานช่วงก่อนหน้านี้ จะมีเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจช่วยในการแก้ไขปัญหาเวลาเราติดขัดในเรื่องงานเกี่ยวกับด้านเทคนิคต่างๆ ปัจจุบันบริษัทจะจ้างนักเขียนโค้ดเอาท์ซอทให้ช่วยแก้ปัญหาในลักษณะนี้จากที่ของพวกเขาได้โดยไม่จำเป็นต้องจ้างเป็นพนักงานประจำ จากแนวโน้มข้างต้นนี้ มันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักเขียนโค้ดที่ต้องการทำงานแบบ อิสระที่จะต้องเผชิญความท้าทายและคาดเดาหนทางการแก้ปัญหาที่สามารถเป็นไปได้และนำไปสู่การเตรียมพร้อมไปสู่การรับมือปัญหาใหม่ๆ อยู่เสมอ
5. การพัฒนา Low-Code และ No-Code
ในปี 2024 Low-Code ยังคงได้รับการพัฒนาต่อและยังคงถือเป็นหัวใจหลักอยู่เพราะหลายธุรกิจใช้มันในสร้างแพลทฟอร์มในรูปแบบแอปพลิเคชั่นของตัวเอง ณ ปัจจุบันหลายองค์กรใหญ่หันมายอมรับ Low-Code กันมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีแพลทฟอร์มนี้ก็ทำให้หลายๆ ธุรกิจทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) สามารถสร้างจุดแข็งจากการออกแบบแอปพลิเคชั่นเฉพาะแบบของตัวเองและสามารถเปลี่ยนไอเดียที่สร้างสรรค์นี้ให้ทำออกมาให้เป็นจริงได้ภายใต้การพัฒนาในต้นทุนที่ไม่สูงมากนัก แนวโน้มในการยอมรับในแพลตฟอร์มที่สร้างจาก Low-Code และ No-Code นั้นกำลังเพิ่มสูงขึ้น ทำให้แม้แต่คนธรรมดาๆ ที่ไม่มีพื้นความรู้ทางด้านนี้ก็สามารถสร้างแพลทฟอร์มของตัวเองได้โดยใช้โคดดิ้งเพียงเล็กน้อย แค่ชื่อก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า “Low- Code Solution” ผู้ใช้จึงสามารถจัดการขั้นตอนรวมไปถึงกระบวนการต่างๆ ในการทำงานของแอพพลิเคชั่นที่ต้องการโดยใช้โค้ดน้อยมากหรือบางครั้งอาจไม่ต้องใช้โค้ดสั่งการเลย
มีการคาดการว่ามากกว่า 75% ของแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ จะถูกพัฒนาขึ้นจาก “Low-Code” จะเกิดขึ้นในปี 2026 ซึ่งข้อมูลนี้ได้รับการวิเคราะห์มาจากสถาบันที่ปรึกษาและวิจัยทางด้านเทคโนโลยีของอเมริกาของมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด
นอกจากนี้ “Low-Code” จะช่วยกระชับความสัมพันธ์กันระหว่างภาคธุรกิจกับงานส่วน IT ได้เวลามีการคิดค้นและสร้างแอพพลิเคชั่นใหม่และภาคธุรกิจได้นำมันไปใช้งาน และ ”Low-Code” ก็ยังมีส่วนสำคัญในการเร่งการพัฒนาและสร้างแอพพลิเคชั่นโดยการย่นระยะเวลาให้น้อยลง
การคํานวณ Quantum-Edge จะมีประสิทธิภาพเท่าไหร่ในปี 2024
การที่จะบอกว่าโลกกําลังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วไปสู่ยุคของ Quantum-Edge อย่างปลอดภัยนั้นคงไม่เกินจริง การคํานวณควอนตัมสามารถช่วยแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อนซึ่ง การคำณวนนี้ยังสามารถประมวลผลแบบเรียลไทม์อีกด้วย การรวมควอนตัมเข้ามาในการทำงานจะช่วยในเรื่องของการคำณวนที่รวดเร็วที่มี ประสิทธิภาพอย่างมีนัยสําคัญ นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการทํางานร่วมกันของ Quantum-Edge อาจจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบภาพรวมในการทำงานของ AI / ML
โปรแกรมภาษาใดจะมีบทบาทสำคัญและโดดเด่นในปี 2024 ในปี 2024 Javascript และ Python จะยังคงเป็นสองภาษาที่นิยมและใช้ในการเขียนโปรแกรม จะว่าไปแล้วก็เปรียบเสมือนผู้เล่นหลักนั่นเอง และภาษาที่สำคัญรองลงมาก็คือ Go, Java, PHP และอื่น ๆ Javascript Python Go Java Kotlin PHP C# Swift R Ruby
ตามดัชนี PYPL, Python นับเป็นที่ใช้ภาษาการเขียนโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะมีอัตราการเติบโตที่มากที่สุดและสูงถึง 19% เช่นเดียวกับในปี 2023 จาก การสํารวจของ Stack Overflow พบว่า Python เป็นภาษาที่ใช้กันมากที่สุดสําหรับนักเขียนโค้ด สรุปว่า มีภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมอยู่มากมาย ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพัฒนาเว็บ หรือนักวิเคราะห์ข้อมูลควรพึงระลึกไว้เสมอว่าจงเลือกภาษาที่ใช่สำหรับตัวคุณและควรเก็บแรงบันดาลใจของคุณไว้และใช้มันอัปเดตหรือปรับตัวในการเรียนรู้เกี่ยวกับเทรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์อยู่เสมอๆ
Citaiton: Bin. “Top 5 Coding Trends in 2024 Every Aspiring Developer Should Know.” Broadway Infosys, 5 Mar. 2024, broadwayinfosys. com/blog/it-career/top-5-coding-trends-in-2024-every- aspiring-developer-should-know.
ยังมีเวลาพอที่จะให้คุณเริ่มเรียนรู้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้โค้ด และยังมีทรัพยากรมากมายที่รอที่จะให้เราปลดล็อคและนำไปใช้ และคนที่ฉลาดในการเรียนรู้ ท็อป 5 โค้ดดิ้งในปี 2024 นี้จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและต่อยอดความรู้ของคุณได้อย่างเหลือเชื่อ
เหตุผลว่าทำไมคุณต้องรู้เกี่ยวกับเทรนด์ของโค้ดดิ้งในปัจจุบัน?
ในยุคปัจจุบันหนึ่งเราต้องจับตาอยู่กับเทรนด์ใหม่ของการพัฒนาซอฟต์แวร์ เนื่องจากธรรมชาติของการเขียนโค้ดจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา เราจึงควรหมั่นทบทวนความรู้ที่มีและหาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมมีอยู่เสมอ
การร่างแผนงานแบบคร่าวๆ อย่างถูกต้องและชัดเจนอาจจะพอช่วยคุณได้หากคุณต้องการจะเข้าสู่วงการการเขียนโค้ดโดยที่ขาดประสบการณ์และทักษะเกี่ยวกับมัน และสิ่งที่สำคัญคือการรู้จักเรียนรู้เทรนด์ของโค้ดดิ้งในรูปแบบใหม่ๆ จะเป็นสิ่งที่สร้างทักษะที่สำคัญทำให้นักพัฒนาโปรแกรมสามารถสร้างจุดแข็งและสร้างความได้เปรียบที่แตกต่างได้แน่นอน
5โค้ดดิ้ง ที่ได้รับความนิยมที่ใช้ในการสร้างงานด้านการเขียนโปรแกรม
1. AI-Machine Learning Integration (AL/ML) เทคโนโลยี AI / ML เข้ามามีบทบาทในการช่วยปรับปรุงความสามารถและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในอุตสาหกรรมหลายๆ ประเภท ผู้ใช้เลือกใช้เครื่องมือขับเคลื่อนด้วย AI มากขึ้นเพราะมันช่วยขจัดข้อผิดพลาดได้อย่างเห็นผล ช่วยให้การทำงานกินเวลาน้อย แถมยังช่วยเพิ่มผลลัพธ์ที่แม่นยำได้อย่างน่าอัศจรรย์ ยกตัวอย่างเช่น Copilot ของ GitHub ใช้ AI เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนาโปรแกรมโดยมีฟังก์ชันในการทำงานให้ทั้งหมดพร้อมกับโค้ดดิ้งแบบเรียลไทม์ เช่นเดียวกันกับเครื่องมือวิเคราะห์ที่ถูกขับเคลื่อนด้วย AI อย่าง Tableau ที่ช่วยทำให้ธุรกิจได้รับข้อมูลของพวกเขาและใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยทำมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปี 2024 จะเป็นปีของการพัฒนาและมีการรวมเทคโนโลยีเหล่านี้ไว้ในงานของautomating text, โค้ดดิ้ง และงานด้านรูปภาพหรือด้านกราฟิก Machine Learning ได้กลายมาเป็นสิ่งจำเป็นในงานหลากหลายสาขาเช่น…
ระบบการให้คำแนะนํา ระบบยานพาหนะแบบอัตโนมัติ LLM (Large Language Models) Computer vision ช่วยด้านการพูด ช่วยในการกรองอีเมล ด้านเกี่ยวกับยา
ในปีที่ผ่านมา ML ถือเป็นเสาหลักในอุตสาหกรรมธุรกิจและเทคโนโลยี และตามสถิติแล้วมันยังแสดงผลในเชิงบวก ML ถูกแบ่งออกเป็นสามประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ Supervised, Unsupervised, และ Reinforcement Learning จากการสำรวจมีหลาย ML ที่ได้รับความนิยม เช่น Keras, TensorFlow, mlpack, PyTorch ฯลฯ และคุณสามารถใช้มันร่วมกันกับความรู้ในด้านโค้ดที่คุณมี
2. เทคโนโลยีบล็อกเชน ตั้งแต่เริ่มมีบล็อกเชน เทคโนโลยีนี้ก็ได้กลายมาเป็นคําที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเพราะมันคือวิธีที่ถือได้ว่าปลอดภัยในการตรวจสอบเกี่ยวกับธุรกรรมต่างๆ มันเป็นการกระจายข้อมูลที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายโดยผ่านการเขียนโค้ดแบบผสมผสาน บล็อคเชนกำลังจะเปลี่ยนเปลี่ยนวิถีในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงการจัดการเกี่ยวกับอุปทานทางการเงินรวมไปถึงธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพและอื่น ๆ การรวมเทคโนโลยีบล็อคเชนจะเปลี่ยนหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาแอพพลิเคชันที่แยกส่วน (DApps) และความฉลาดของตัวมันที่สามารถดําเนินการเองบนแพลตฟอร์มเช่น Ethereum ในขณะที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนา นักเขียนโปรแกรมยังคงค้นพบวิธีใหม่ ๆ เพื่อใช้ ประโยชน์จากบล็อกเชน และกำหนดอนาคตโดยใช้ระบบกระจายเป็นภาคส่วนได้อย่างปลอดภัยและโปร่งใสซึ่งวิธีการนี้จะสร้างบรรทัดฐานใหม่สำหรับโค้ดดิ้ง และที่ปัจจุบันกำลังนิยมอยู่ก็คือ DeFi, NFT (Non-Fungible Tokens), Interoperability Magic และ Greener Blockchain
3. การตระหนักถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์ ยิ่งเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ การเพิ่มขึ้นของการคุกคามทางไซเบอร์ซึ่งก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว และความอันตรายนี้กลายมาเป็นประเด็นสําคัญของการพัฒนาซอฟต์แวร์ในปี 2024
ผู้พัฒนาด้านคอมพิวเตอร์ต้องรู้วิธีการเขียนโค้ดให้รัดกุมขึ้นในขณะที่ภัยคุกคามไซเบอร์มีความถี่ในการเกิดมากขึ้น การเรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโค้ด secure API และสร้างแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการป้องกันข้อมูลให้ปลอดภัยจะช่วยเพิ่มความสามารถในทักษะของคุณและช่วยสร้างแอพพลิเคชันที่อาจถูกโจรกรรมได้ยากขึ้น การยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับการเขียนโค้ดแบบร่วมสมัยยังคงเป็นสิ่งสําคัญที่จะผลักดันด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบไดนามิก การศึกษาเพิ่มเติมในเรื่อง Machine Learning, Progressive Web Apps, Containerization, Serverless Architecture, Progressive Web Apps, และ Cybersecurity Practice จะช่วยปรับปรุงทักษะการเขียนโค้ดของคุณและคุณจะผันตัวไปเป็นพัฒนาที่เชี่ยวชาญได้ มันเหมือนเป็นการเตรียมตัวรับมือและสามารถปรับตัวได้ในโลกของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่ออยู่ตลอดเวลาในอนาคต
4. ที่ไหนก็ทำงานได้ การเติบโตของรูปแบบการทํางานแบบไม่ต้องเข้าออฟฟิศเริ่มได้รับการยอมรับและกำลังกระจายไปทั่วโลก สิ่งนี้ก่อให้เกิดนิยามใหม่ในการทำงานและรวมไปถึงงานด้านการเขียนโค้ด การเอาท์ซอทงานต่าง ๆ ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาของการเขียนโค้ด มันถูกขับเคลื่อนโดยการค้นหาคนที่ใช่ในงานที่มอบให้และเป็นวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายเชิงกลยุทธ์ การทำงานจากระยะไกลยังนําไปสู่ความท้าทายทางถึงความมีศักยภาพทางด้าน เทคนิคด้วย ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีความรู้ด้านเทคนิคน้อยกว่าต้องการความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อสัญญานต่างๆ เช่นปัญหาของเราเตอร์ หือ Wi-Fi ที่ส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และเช่นเดียวกัน มันเหมือนกับปัญหาการทำงานที่ล่าช้าใน MacBook ของนักเขียนโค้ดเพราะขาดความรู้ในการเลือกคุณสมบัติของ CPU ให้เข้ากับเครื่อง Mac นั่นเอง และในกรณีนี้มันก็เหมือนจุดอ่อนและจำกัดการทำงานของเราเอง
ในการทำงานช่วงก่อนหน้านี้ จะมีเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจช่วยในการแก้ไขปัญหาเวลาเราติดขัดในเรื่องงานเกี่ยวกับด้านเทคนิคต่างๆ ปัจจุบันบริษัทจะจ้างนักเขียนโค้ดเอาท์ซอทให้ช่วยแก้ปัญหาในลักษณะนี้จากที่ของพวกเขาได้โดยไม่จำเป็นต้องจ้างเป็นพนักงานประจำ จากแนวโน้มข้างต้นนี้ มันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักเขียนโค้ดที่ต้องการทำงานแบบ อิสระที่จะต้องเผชิญความท้าทายและคาดเดาหนทางการแก้ปัญหาที่สามารถเป็นไปได้และนำไปสู่การเตรียมพร้อมไปสู่การรับมือปัญหาใหม่ๆ อยู่เสมอ
5. การพัฒนา Low-Code และ No-Code
ในปี 2024 Low-Code ยังคงได้รับการพัฒนาต่อและยังคงถือเป็นหัวใจหลักอยู่เพราะหลายธุรกิจใช้มันในสร้างแพลทฟอร์มในรูปแบบแอปพลิเคชั่นของตัวเอง ณ ปัจจุบันหลายองค์กรใหญ่หันมายอมรับ Low-Code กันมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีแพลทฟอร์มนี้ก็ทำให้หลายๆ ธุรกิจทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) สามารถสร้างจุดแข็งจากการออกแบบแอปพลิเคชั่นเฉพาะแบบของตัวเองและสามารถเปลี่ยนไอเดียที่สร้างสรรค์นี้ให้ทำออกมาให้เป็นจริงได้ภายใต้การพัฒนาในต้นทุนที่ไม่สูงมากนัก แนวโน้มในการยอมรับในแพลตฟอร์มที่สร้างจาก Low-Code และ No-Code นั้นกำลังเพิ่มสูงขึ้น ทำให้แม้แต่คนธรรมดาๆ ที่ไม่มีพื้นความรู้ทางด้านนี้ก็สามารถสร้างแพลทฟอร์มของตัวเองได้โดยใช้โคดดิ้งเพียงเล็กน้อย แค่ชื่อก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า “Low- Code Solution” ผู้ใช้จึงสามารถจัดการขั้นตอนรวมไปถึงกระบวนการต่างๆ ในการทำงานของแอพพลิเคชั่นที่ต้องการโดยใช้โค้ดน้อยมากหรือบางครั้งอาจไม่ต้องใช้โค้ดสั่งการเลย
มีการคาดการว่ามากกว่า 75% ของแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ จะถูกพัฒนาขึ้นจาก “Low-Code” จะเกิดขึ้นในปี 2026 ซึ่งข้อมูลนี้ได้รับการวิเคราะห์มาจากสถาบันที่ปรึกษาและวิจัยทางด้านเทคโนโลยีของอเมริกาของมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด
นอกจากนี้ “Low-Code” จะช่วยกระชับความสัมพันธ์กันระหว่างภาคธุรกิจกับงานส่วน IT ได้เวลามีการคิดค้นและสร้างแอพพลิเคชั่นใหม่และภาคธุรกิจได้นำมันไปใช้งาน และ ”Low-Code” ก็ยังมีส่วนสำคัญในการเร่งการพัฒนาและสร้างแอพพลิเคชั่นโดยการย่นระยะเวลาให้น้อยลง
การคํานวณ Quantum-Edge จะมีประสิทธิภาพเท่าไหร่ในปี 2024
การที่จะบอกว่าโลกกําลังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วไปสู่ยุคของ Quantum-Edge อย่างปลอดภัยนั้นคงไม่เกินจริง การคํานวณควอนตัมสามารถช่วยแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อนซึ่ง การคำณวนนี้ยังสามารถประมวลผลแบบเรียลไทม์อีกด้วย การรวมควอนตัมเข้ามาในการทำงานจะช่วยในเรื่องของการคำณวนที่รวดเร็วที่มี ประสิทธิภาพอย่างมีนัยสําคัญ นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการทํางานร่วมกันของ Quantum-Edge อาจจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบภาพรวมในการทำงานของ AI / ML
โปรแกรมภาษาใดจะมีบทบาทสำคัญและโดดเด่นในปี 2024 ในปี 2024 Javascript และ Python จะยังคงเป็นสองภาษาที่นิยมและใช้ในการเขียนโปรแกรม จะว่าไปแล้วก็เปรียบเสมือนผู้เล่นหลักนั่นเอง และภาษาที่สำคัญรองลงมาก็คือ Go, Java, PHP และอื่น ๆ Javascript Python Go Java Kotlin PHP C# Swift R Ruby
ตามดัชนี PYPL, Python นับเป็นที่ใช้ภาษาการเขียนโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะมีอัตราการเติบโตที่มากที่สุดและสูงถึง 19% เช่นเดียวกับในปี 2023 จาก การสํารวจของ Stack Overflow พบว่า Python เป็นภาษาที่ใช้กันมากที่สุดสําหรับนักเขียนโค้ด สรุปว่า มีภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมอยู่มากมาย ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพัฒนาเว็บ หรือนักวิเคราะห์ข้อมูลควรพึงระลึกไว้เสมอว่าจงเลือกภาษาที่ใช่สำหรับตัวคุณและควรเก็บแรงบันดาลใจของคุณไว้และใช้มันอัปเดตหรือปรับตัวในการเรียนรู้เกี่ยวกับเทรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์อยู่เสมอๆ
Citaiton: Bin. “Top 5 Coding Trends in 2024 Every Aspiring Developer Should Know.” Broadway Infosys, 5 Mar. 2024, broadwayinfosys. com/blog/it-career/top-5-coding-trends-in-2024-every- aspiring-developer-should-know.